หัวใจของเด็กผู้ชาย ถ้าถูกทำร้ายตั้งแต่เด็ก
เขาอาจโตมามีบาดแผล จนต้องทำร้ายคนอื่น
ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าถ้าพ่อแม่ทิ้งลูก ไม่เหลียวแลลูกตั้งแต่วัยทารก จะทำให้เขาโตมากลายเป็นเด็กไม่มีหัวใจได้ ถ้าแค่พ่อแม่ทิ้งลูกวัย 2 ขวบให้ยืนเกาะเปลทั้งวัน จนทั้งอึทั้งฉี่กองตุงในแพมเพอร์สเขา เป็นแผลไหม้เนื้อของเขา เรื่องแค่นี้ก็สร้างรอยร้าวในใจเขาได้ ยิ่งถ้าเจอพ่อแม่ใช้ยาเสพติด แล้วพออารมณ์เหวี่ยงก็ทำร้ายลูก หรือไม่ว่าลูกจะร้อง จะต้องการอะไร พ่อแม่ไม่เคยสนใจ ไม่เคยฟัง ทั้งหมดจะทำให้เขาหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล และอะดรีนาลีน ทำให้พุ่งเข้าไปในระบบไหลเวียนเลือดของเขา พุ่งตรงเข้าไปที่สมองในเรื่องของระบบที่ควบคุมเรื่อง “การเห็นอกเห็นใจ” และ “ความมีสติรับรู้”
ที่น่ากลัวคือเมื่อสมองเขาเกิดการถูกทำร้ายเช่นนี้แล้ว มันคือได้ถูกทำลายลงไปแล้ว ยากมากที่จะกลับไปซ่อมได้ เกิดผลต่อความสามารถในการที่จะมีความ “รู้สึก” ที่มีต่อผู้อื่นไปได้ในอนาคตของเขา และเรื่องนี้ไม่ได้เกิดแค่ทารก เด็กผู้ชายที่เข้าสู่วัยรุ่น ก็เกิดผลได้เช่นเดียวกัน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเด็กวัยรุ่นชายหลายๆ คนที่กระทำรุนแรงต่อผู้อื่น จะมีอาการคล้ายๆ กันคือ “สมองถูกทำลาย” กันทั้งนั้น
พวกเขามักจบลงด้วยการทำร้ายชีวิตคนอื่น เหมือนกับเหตุกาณ์มากมายที่เกิดขึ้นในโลก ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ยิงในโรงเรียนที่โคโลราโด ลิตเติลตัน, โจเนสโบโร อาร์คันซัส, สปริงฟีลด์ โอเรกอน และอีกหลายๆ ที่ อย่างที่สปริงฟีลด์ โอเรกอน เด็กที่เป็นมือสังหารอายุ 15 ปีชื่อ คิด คินเคล เขาได้ฆ่าพ่อของเขา และเพื่อนในห้องเรียนเขาอีก 27 คน เมื่อตำรวจถามว่าทำไมเขาทำ เขาตอบแต่ว่า “ผมไม่รู้” และก็พูดสลับกับว่า “โอ้ มาย ก้อด ผมรักพ่อผมมาก” ตำรวจถามต่อว่ารู้มั้ยว่าเธอทำผิด เขาตอบกลับมาว่า “ผมไม่มีทางเลือก มันเป็นสิ่งเดียวที่ผมต้องทำ”
และทั้งหมดนี้จากสถิติคือโดยมากจะเกิดขึ้นกับเด็กผู้ชาย พวกเขาฝังรอยเจ็บปวดไว้ได้ลึก และรุนแรงกว่าเด็กผู้หญิง มีรายงานออกมาว่า เด็กผู้ชายจะติดยาเสพติดได้มากกว่าเด็กผู้หญิง 3 เท่า พวกเขาจะถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคทางอารมณ์มากกว่า 4 เท่า และมีความเสี่ยงที่จะมีพฤติกรรมเป็นผู้ร้าย และทำร้ายใครถึงแก่ชีวิตได้มากกว่าเด็กผู้หญิงอย่างมาก
นักวิจัยทั้งโลกจึงออกมาช่วยกันหาวิธี ให้พ่อแม่ใส่ใจกับลูกตั้งแต่ยังอยู่ในวัยทารก อย่าเพิ่งโหดกับเขา อย่าเพิ่งพยายามฝึกหรือทดสอบอะไรเขาในวัยที่เขาต้องการความช่วยเหลือ และการดูแลจิตใจเป็นอย่างมาก และยิ่งเมื่อพวกเขาเข้าสู่วัยรุ่น ฮอร์โมนตัวใหม่ได้ทะลักเข้าไปกระแทกเขา เด็กผู้ชายจะมีความคิด มีโลกของเขาที่ต้องการคนยอมรับ รับฟัง และเข้าใจ
พวกเราเองที่มีลูกชาย อาจจะต้องมองเขาให้ลึกซึ้ง เห็นใจเขา และอ่อนโยนกับเขาให้มาก และยังต้องคอยหาอะไรมาอินสไปร์ ให้เขามีแพชชั่นจนกลายเป็นแรงขับ ทำเรื่องดีๆ กับตัวเขา และต่อโลกต่อไปอีก เราคงไม่อยากเห็นลูกเราทำร้ายใคร เราเองก็คงต้องไม่ทำร้ายลูก
อย่ามองข้ามเรื่องเล็กน้อย และก็อย่ากดดันจนเขารู้สึกไม่ดีกับตัวเอง หัวใจของเด็กผู้ชายอาจจะบอบบางกว่าที่เรารู้ก็ได้นะ
LIKE US > Facebook/Momscream